Our social:

วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560

"กรมอุทยานฯ เตรียมดำเนินคดี กลุ่มคนเลี้ยงเหยี่ยว เล่นพนันใช้เหยี่ยวล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง

"กรมอุทยานฯ เตรียมดำเนินคดี กลุ่มคนเลี้ยงเหยี่ยว เล่นพนันใช้เหยี่ยวล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง
9 มี.ค.60 นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กรณีมีเพจชื่อดังและสื่อมวลชนนำเสนอคลิปภาพ กลุ่มคนผู้เลี้ยงเหยี่ยวนำเหยี่ยวมาพนันแข่งขันกันโดยใช้วิธีให้เหยี่ยวล่าเหยื่อซึ่งเป็นสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งหากเหยี่ยวของบุคคลใดล่าสัตว์ป่าได้มากกว่า ก็จะได้รับเงินพนัน จำนวน ๙,๐๐๐ บาท นั้น
กรมอุทยานฯ ได้ตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าว พบว่า มีคณะบุคคลจำนวน 5 คน ได้เดินทางเข้าไปในหมู่บ้านใกล้ทุ่งนา ท้องที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา จากนั้นจึงได้ร่วมมือกันควบคุม/สั่งการให้เหยี่ยว ออกไปจับหรือล่าสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดอื่นในธรรมชาติเพื่อเป็นอาหาร โดยมีภาพของซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่เหยี่ยวจับได้จากธรรมชาติ จำนวน 3 รายการ คือ นกกวัก จำนวน 4 ซาก นกพริก จำนวน 3 ซาก และเป็ดแดง จำนวน 2 ซาก รวมซากสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ทั้งหมด 9 ซาก
สำหรับเหยี่ยวที่ปรากฏในคลิปข่าวของสื่อมวลชนนั้น เป็นเหยี่ยวแฮริส หรือ Harris hawk ชื่อวิทยาศาสตร์ Parabuteo unicinctus ลักษณะทั่วไป จัดเป็นนกล่าเหยื่อขนาดกลาง พบได้ทั่วไป ในอเมริกา ชิลี อาร์เจนติน่า และยุโรป เป็นสายพันธุ์ยอดนิยม ในการนำมาเลี้ยง และได้รับการฝึกให้เป็นเหยี่ยวสำหรับล่าสัตว์ ลำตัวมีขนสีน้ำตาลเข้ม ส่วนบริเวณหัวไหล่ และโคนขามีสีขนแบบลูกเกาลัด(Shestnut) ส่วนบริเวณด้านในปีก และปลายปีกมีขนสีขาว โดยมีขาและจงอยปากสีเหลือง เพศผู้น้ำหนักประมาณ 546-850 กรัมเพศเมียน้ำหนักประมาณ 766-1633 กรัม ทำรังวางไข่บนต้นไม้ขนาดเล็กหรือบนต้นกระบองเพชร ออกไข่ครั้งละ2-4 ฟอง ไข่จะฟักออกเป็นตัว ใช้เวลา31-36 วัน สามารถ ผสมพันธุ์ ได้ปีละ2-3 ครั้ง พฤติกรรมการล่า สามารถล่าได้เป็นฝูงๆละ2-6 ตัว เป็นนกล่าเหยื่อเพียงชนิดเดียวที่ล่าเหยื่อเป็นฝูงได้ ราคาตัวละประมาณ 60,000-80,000 บาท
แต่เนื่องจากเหยี่ยวแฮริส ไม่พบในประเทศไทยตามธรรมชาติ จึงมิได้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 แต่อย่างใด แต่การที่นำเหยี่ยวแฮริส ออกไปจับหรือล่าสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดอื่นในธรรมชาติ เป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 การกระทำหรือร่วมกันกระทำดังกล่าวข้างต้น
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เห็นว่าเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 16 ข้อหาล่า หรือพยายามล่า ซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 19 ข้อหามีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต บทกำหนดโทษ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 16 มาตรา 19 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ ของสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ได้ดำเนินการกล่าวโทษ ต่อชายดังกล่าวทั้ง ๕ คน ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางน้ำเปรี้ยว เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2560 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการติดตามผู้ถูกกล่าวหาเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
"หากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสัตว์ป่า แจ้งสายด่วน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง"
#ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า2535 #มาตรา16 #ล่าสัตว์ป่า #มาตรา19 #มีซากสัตว์ป่า #สงวนคุ้มครอง #การอนุรักษ์สัตว์ป่า #ชี้แจงประเด็นข่าว

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น