Our social:

วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

จำคุกอดีตสารวัตร สภ.ปราณบุรี ลักลอบล่าสัตว์ในอุทยานแก่งกระจาน หลังคดียืดยื้อมากว่า 5 ปี

จำคุกอดีตสารวัตร สภ.ปราณบุรี ลักลอบล่าสัตว์ในอุทยานแก่งกระจาน หลังคดียืดยื้อมากว่า 5 ปี
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 60 ศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้อ่านคำพิพากษาฏีกาในคดีที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ แก่งกระจานในสมัยนั้น นำกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าแกะรอยเข้าติดตามจับกุมกลุ่มนายพราน ที่มีนายตำรวจระดับสารวัตรยศ พ.ต.ท.ร่วมทีมรวม 9 คน พร้อมด้วยอาวุธปืนเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ของกลางทั้งกบทูตและซากกระจง พร้อมภาพถ่ายที่กลุ่มพรานถ่ายทั้งภาพนิ่งและภาพวีดีโอไว้ ขณะเข้าไปล่าและพักค้างแรม โดยแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2555 ซึ่งในวันนี้ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลอุธรณ์ โดยจำคุกพ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี 10 เดือน ส่วนรายอื่นๆ ถูกจำคุกเช่นเดียวกันตามความผิด
สำหรับคดีนี้กลายเป็นข่าวโด่งดังเมื่อสมัยนายสุทธิพงษ์ ตันบุญยศิริเดช อดีตนายอำเภอแก่งกระจานในสมัยนั้นเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ลงนามในสำนวนหนังสือส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการจังหวัดเพชรบุรี เสนอสั่งฟ้องคดีผู้ต้องหาเพียงแค่ 8 คน เว้นพ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สารวัตรสภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยศในขณะนั้น ขัดแย้งต่อภาพหลักฐานที่ปรากฏมาทางสื่อทั้งภาพนิ่งและภาพวีดีโอ ที่มีพ.ต.ท.ธีรยุทธ ร่วมอยู่ด้วย กระทั่งทางกรมการปกครองได้สั่งกรรมการสอบสวน กระทั่งอัยการภาค 7 ในสมัยนั้นมีคำสั่งให้สอบเพิ่มเติม 12 ประเด็น และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งพล.ต.ท.จรัมพร สุรมณี ลงมาทำการตรวจสำนวนและทำพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้ง 12 ประเด็น กระทั่งอัยการจังหวัดเพชรบุรี มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ส่วนนายสุทธิพงศ์ ถูกคำสั่งเด้งไปช่วยราชการที่วิทยาลัยการปกครอง เนื่องจากส่งสำนวนไปยังอัยการ โดยไม่ผ่าน ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีในขณะนั้นและเห็นว่าเป็นความบกพร่อง
คดีนี้เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ 4817/2556 หมายเลขแดงที่ 1643/2557 พนักงานอัยการ จังหวัดเพชรบุรี เป็นโจทย์ฟ้องพ.ต.ท. ธีรยุทธ เกตุมั่งมี อดีตสารวัตรสภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมพวกประกอบด้วย นายสุชิน กลัดหลำ กับพวกรวม 9 คนจำเลย เรื่องพรบ.อาวุธปืนฯ,พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ,พรบ.อุทยานแห่งชาติฯและพรบ.ป่าสงวนแห่งชาติฯ มีนายสุชิน กลัดหลำ ที่ 1 นายอรรถวุตต์ ดียิ่ง ที่ 2 นายกิตติพล แซ่ลิ้ม ที่ 3 นายระย้า คะนองหรือ ขนอง ที่4 นายนิธิต เกษมสงคราม ที่ 5
นายศานิต อำนวยเลขา ที่6 นายสมชาย ปีดอก ที่7 นายสายชล กลัดหลำ ที่8 และพันตำรวจโทธีรยุทธ เกตมั่งมี ที่9 ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลอุธรณ์ฐานมีอาวุธปืน มีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุก จำเลยที่ 5 และที่ 8 คนละ 6 เดือน ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือ ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ให้จำคุก จำเลยที่ 2 ที่ 4 ที่ 5 ที่ 8 คนละ 6 เดือน ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว ฐานมีอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับใบอนุญาต คงจำคุกจำเลยที่ 5 และที่ 8 คนละ 3 เดือน ฐานพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
คงจำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 4 ที่ 6 ที่ 8 คนละ 3 เดือน และจำเลยที่ 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา16 (15),27ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ด้วย ฐานนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรืออาวุธเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับจำเลยที่ 3 เป็นเงิน 500 บาท และจำเลยทั้ง 9 มีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา16, 19 วรรคหนึ่ง,47 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกจำเลยทั้ง 9 คน คนละ 6 เดือน ฐานร่วมกันมีสัตว์ป่าคุ้มครองและซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกจำเลยทั้ง 9 คนคนละ 4 เดือน หลังฟังคำพิพากษา ผู้ต้องหาทั้ง 9 คนถูกควบคุมตัวไปคุมขังยังเรือนจำกลางจังหวัดเพชรบุรี
ที่มา
ข้อมูล : NNA สำนักข่าวเนชั่น
ภาพ : นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น