Our social:

อุทยานแห่งชาติภูแลนคา

ที่ตั้งและแผนที่
สถานที่ติดต่อ: ต.ห้วยต้อน อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ 36000

โทรศัพท์ : 0 44 810 903

อีเมล: phulaenkha@hotmail.com

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ : นายเติมศักดิ์ น้อยนารายณ์

อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ 
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท

อุทยานแห่งชาติภูแลนคา มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ ตำบลบ้านหัน ตำบลสระโพนทอง ตำบลโนนกอก ตำบลซับสีทอง ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอเกษตรสมบูรณ์ ตำบลกุดชุมแสง ตำบลคูเมือง อำเภอหนองบัวแดง ตำบลท่ามะไฟหวาน อำเภอแก่งค้อ ตำบลห้วยต้อน อำเภอเมืองชัยภูมิ ตำบลภูแลนคา อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ สภาพป่าเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบไปด้วยแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่น่าสนใจ เช่น จุดชมวิวภูแลนคา ผากล้วยไม้ หินปราสาท ประตูโขลง มอหินขาว เป็นต้น และการเดินทางเข้าไปเที่ยวชมก็สะดวก มีเนื้อที่ประมาณ 200.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 125,312.50 ไร่

ความเป็นมา : สภาพพื้นที่ป่าที่กำหนดเป็นเขตป่าอนุรักษ์ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 และ 7 มีนาคม 2535 ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคาด้านทิศเหนือ และป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคาด้านทิศใต้ของท้องที่อำเภอเมือง อำเภอบ้านเขว้า อำเภอหนองบัวแดง และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ตามคำสั่งกรมป่าไม้ที่ 2262/2539 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2539 ได้ให้นายสุรชัย นายจำเริญ เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 ส่วนอุทยานแห่งชาติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาดโตน ให้ไปดำเนินการสำรวจ เบื้องต้นป่าสงวนดังกล่าว เพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้เข้าไปประสานงานกับทางจังหวัด ชัยภูมิ และจากการสำรวจเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน องค์กรต่าง ๆ ประชาชน และรวมถึงหน่วยงานป่าไม้ประจำจังหวัดชัยภูมิ และป่าไม้เขตนครราชสีมาที่เกี่ยวข้อง

อุทยานแห่งชาติตาดโตน โดยหัวหน้าชุดสำรวจและศึกษา ได้ส่งข้อมูลการรายงานการสำรวจดังกล่าว ให้สำนักงานป่าไม้จังหวัดชัยภูมิทราบและพิจารณา ตามหนังสืออุทยานแห่งชาติตาดโตน ที่ กษ 0712.320/89 ลง วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2539 ซึ่งสำนักงานป่าไม้จังหวัดชัยภูมิได้พิจารณาแล้ว มีความเห็นพ้องกับเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติตาดโตน และได้นำเรื่องราวเสนอคณะอนุกรรมการป้องกันการ ลักลอบทำลายทรัพยากรป่าไม้ ประจำจังหวัดชัยภูมิ เพื่อพิจารณาต่อไป ตามหนังสือสำนักงานป่าไม้จังหวัดชัยภูมิ ที่ ชย. 0009.2/720 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2539

ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2539 ลงวันที่ 23 กันยายน 2539 ของคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการลักลอบทำลายทรัพยากรป่าไม้ พิจารณาเห็นชอบในการกำหนดประกาศพื้นที่ป่าอนุรักษ์บางส่วน ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูแลนคาด้านทิศเหนือ และป่าสงวนแห่งชาติป่าภูแลนคาด้านทิศใต้ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 92,500 ไร่ เพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามหนังสือกองอุทยานแห่งชาติ ที่ กษ. 0712/พิเศษ ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2539 ได้มีมติเห็นชอบและให้การสนับสนุนที่กรมป่าไม้จะประกาศพื้นที่ป่าอนุรักษ์ดังกล่าว เป็นอุทยานแห่งชาติโดยเร็ว และมีมติแนวความคิดเห็นตรงกัน โดยให้ชื่อหน่วยงานใหม่นี้ว่า “อุทยานแห่งชาติภูแลนคา” ด้วยเหตุผลที่ว่าแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ของอุทยานแห่งชาติแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ในเทือกเขาภูแลนคา และเป็นที่รู้จักกันดีของประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งนายสถิตย์ สวินทร อธิบดีกรมป่าไม้ อนุมัติให้ใช้ชื่อ “อุทยานแห่งชาติภูแลนคา” เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2540

ต่อมาปี 2550 ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าภูแลนคาด้านทิศเหนือ และป่าภูแลนคาด้านทิศใต้ ในท้องที่ตำบลบ้านหัน ตำบลสระโพนทอง ตำบลโนนกอก ตำบลซับสีทอง ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอเกษตรสมบูรณ์ ตำบลกุดชุมแสง ตำบลคูเมือง อำเภอหนองบัวแดง ตำบลท่ามะไฟหวาน อำเภอแก่งค้อ ตำบลห้วยต้อน อำเภอเมืองชัยภูมิ ตำบลภูแลนคา อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เนื้อที่ประมาณ 200.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 125,312.50 ไร่ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 124 ตอนที่ 37 ก ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2550 จัดเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 108 ของประเทศ 

ขนาดพื้นที่
125312.50 ไร่

หน่วยงานในพื้นที่
หน่วยพิทักษ์อุทยานฯที่ ภค.1 (ภูคี)
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูแลนคา
หน่วยพิทักษ์อุทยานฯที่ ภค.2 (พานทอง)

ภาพแผนที่

ลักษณะภูมิประเทศ
ลักษณะโดยทั่วไปของพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่สำรวจเป็นเทือกเขาภูแลนคา ภูเขียว ภูคำน้อย พื้นที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน และที่ราบสูง ซึ่งจะมีระดับความสูงตั้งแต่ประมาณ 200 ถึง 1,038 เมตร จากระดับน้ำทะเล จะมียอดภูคี ซึ่งเป็นยอดเขาที่มีความสูง สูงสุดของพื้นที่ โดยมีความสูงประมาณ 1,038 เมตร จากระดับน้ำทะเล พื้นที่ทางด้านทิศใต้จะเป็นพื้นที่ลาด ซึ่งจะอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 200 ถึง 700 เมตร และพื้นที่ทางด้านทิศเหนือจะเป็นพื้นที่ลาดชันมาก มีหน้าผาหุบเขาเป็นส่วนใหญ่ 

ลักษณะภูมิอากาศ
จัดอยู่ในภูมิอากาศฝนเมืองร้อนมี 3 ฤดู ได้รับอิทธิพลจากมรสุมประจำฤดู อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27.66 องศาเซียส ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยทั้งปี 60 % ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งปี 1,155.36 

พืชพรรณและสัตว์ป่า
ลักษณะพันธ์ุพืช
จากสภาพพื้นที่เทือกเขาภูแลนคาที่มีระดับความสูงประมาณ 300 - 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จึงก่อให้เกิดสภาพป่าไม้ที่หลากหลายถึง 4 ประเภท ดังนี้
1. ป่าเบญจพรรณ เป็นป่าผสมผลัดใบ พบโดยทั่วไปบริเวณหน้าผาด้านทิศเหนือของพื้นที่ ในระดับความสูงประมาณ 300 - 800 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 96 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 48 ของพื้นที่ พันธุ์ไม้ที่พบโดยทั่วไปได้แก่ ตะแบก ประดู่ มะค่าโมง ตีนนก ไม้ไผ่ ฯลฯ
2.ป่าดิบแล้ง เป็นป่าไม้ผลัดใบ พบโดยทั่วไปตามร่องเขาและลำห้วย ในระดับความสูงประมาณ 400 - 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 30 ของพื้นที่ พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ไทร ตะแบก ประดู่ ตะเคียน ฯลฯ สำหรับไม้พื้นล่างจะพบไม้พุ่มและลูกไม้ป่าขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น
3. ป่าเต็งรัง เป็นป่าโปร่งผลัดใบ พบบริเวณทางตอนใต้ของพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติฯ ขึ้นอยู่ในระดับความสูงประมาณ 300 - 700 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 40 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 20 ของพื้นที่ พันธุ์ไม้ที่พบโดยทั่วไปได้แก่ เหียง เต็ง รัง พะยอม รักใหญ่ ส้าน ฯลฯ ไม้พื้นล่างจะพบไผ่เพ็ก กระเจียวขาว ซึ่งเป็นไม้ประจำถิ่นขึ้นอยู่เป็นกลุ่มๆ ทั่วไป
4. ป่าทุ่งหญ้า เป็นป่าทุ่งหญ้าคาและท่งหญ้าเพ็ก พบโดยทั่วไปในพื้นที่คลอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4 ตาราง-กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 2

ลักษณะสัตว์ป่า
เนื่องจากสภาพพื้นที่ที่มีความหลากหลายของชนิดป่าถึง 4 ประเภท ประกอบกับมีอาณาเขตติดต่อกับอุทยานแห่งชาติตาดโตน และอุทยานแห่งชาติไทรทอง ซึ่งเหมาะสมกับการดำรงชีวิตของสัตว์ป่ามากมาย จากการสำรวจทรัพยากรสัตว์ป่าในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ได้แก่ สัตว์จำพวกนก จำนวน 57 ชนิด และสัตว์จำพวกเลี้ยงลูกด้วยนม จำนวน 3 ชนิด เช่น หมูป่า สุนัขจิ้งจอก อีเห็น เป็นต้น 

การเดินทาง
รถยนต์
จากกรุงเทพฯ เดินทางโดยใช้เส้นทางตามเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดปทุมธานี อยุธยา จนถึงสระบุรี ระยะทางประมาณ 107 กิโลเมตร แล้วเดินทางต่อโดยใช้เส้น ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ผ่านอำเภอมวกเหล็ก อำเภอปากช่อง จนถึงแยกเข้าอำเภอสีคิ้ว ระยะทางประมาณ 85 กิโลเมตร แล้วเดินทางต่อโดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอสีคิ้ว อำเภอด่านขุนทด อำเภอจัตุรัส ถึงจังหวัดชัยภูมิ ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร รวมระยะทางเส้นทางหลักทั้งสิ้นประมาณ 312 กิโลเมตร หลังจากนั้นสามารถเดินทางจากจังหวัดชัยภูมิ ใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2051 (ชัยภูมิ-ตาดโตน) ไปประมาณ 6 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2159 (ชัยภูมิ-หนองบัวแดง) ไปจนถึง กม.ที่ 26 มีทางแยกซ้ายมือเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น