Latest Post
วันศุกร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2560
วันอังคารที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2560
14 เมษายน นี้ เที่ยวฟรี! อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ
14 เมษายน นี้ เที่ยวฟรี! อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ
--กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศยกเว้นค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติสำหรับบุคคลชาวไทย และยานพาหนะ ในวันครอบครัว 14 เมษายน 2560 เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลและสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560
อุทยานแห่งชาติเมืองไทยสวยไม่แพ้ชาติใดในโลก
อุทยานแห่งชาติเมืองไทยสวยไม่แพ้ชาติใดในโลก
หมู่เกาะช้าง เป็นอุทยานแห่งชาติที่เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงของจังหวัดตราด ตั้งอยู่ในท้องที่กิ่งอำเภอเกาะช้างและกิ่งอำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยมากกว่า 40 เกาะ ทั้งยังมีเกาะที่เป็นโขดหินกลางทะเลอีกจำนวนมาก
เกาะช้าง มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ สาม ของประเทศไทยรองจากเกาะภูเก็ตและเกาะสมุย แต่พื้นที่อุทยานแห่งชาติไม่ได้ครอบคลุมเกาะช้างทั้งหมด เกาะหลายแห่งมีทิวทัศน์สวยงาม หาดทรายขาว และน้ำทะเลใสสะอาด เนื่องจากหมู่เกาะช้าง ไม่มีการทับถมของตะกอนโคลนเลนจากแม่น้ำ จึงทำให้หมู่เกาะเหล่านี้มีหาดทรายที่ ขาวสะอาด น้ำทะเลใสสวย และอุดม/ เกาะง่าม บางแห่งมีปะการังใต้น้ำที่คงความสมบูรณ์ตามธรรมชาติ เช่น เกาะหวาย และหมู่เกาะรัง
วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560
"กรมอุทยานฯ เตรียมดำเนินคดี กลุ่มคนเลี้ยงเหยี่ยว เล่นพนันใช้เหยี่ยวล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง
"กรมอุทยานฯ เตรียมดำเนินคดี กลุ่มคนเลี้ยงเหยี่ยว เล่นพนันใช้เหยี่ยวล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง
9 มี.ค.60 นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กรณีมีเพจชื่อดังและสื่อมวลชนนำเสนอคลิปภาพ กลุ่มคนผู้เลี้ยงเหยี่ยวนำเหยี่ยวมาพนันแข่งขันกันโดยใช้วิธีให้เหยี่ยวล่าเหยื่อซึ่งเป็นสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งหากเหยี่ยวของบุคคลใดล่าสัตว์ป่าได้มากกว่า ก็จะได้รับเงินพนัน จำนวน ๙,๐๐๐ บาท นั้น
กรมอุทยานฯ ได้ตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าว พบว่า มีคณะบุคคลจำนวน 5 คน ได้เดินทางเข้าไปในหมู่บ้านใกล้ทุ่งนา ท้องที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา จากนั้นจึงได้ร่วมมือกันควบคุม/สั่งการให้เหยี่ยว ออกไปจับหรือล่าสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดอื่นในธรรมชาติเพื่อเป็นอาหาร โดยมีภาพของซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่เหยี่ยวจับได้จากธรรมชาติ จำนวน 3 รายการ คือ นกกวัก จำนวน 4 ซาก นกพริก จำนวน 3 ซาก และเป็ดแดง จำนวน 2 ซาก รวมซากสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ทั้งหมด 9 ซาก

แต่เนื่องจากเหยี่ยวแฮริส ไม่พบในประเทศไทยตามธรรมชาติ จึงมิได้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 แต่อย่างใด แต่การที่นำเหยี่ยวแฮริส ออกไปจับหรือล่าสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดอื่นในธรรมชาติ เป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 การกระทำหรือร่วมกันกระทำดังกล่าวข้างต้น
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เห็นว่าเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 16 ข้อหาล่า หรือพยายามล่า ซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 19 ข้อหามีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต บทกำหนดโทษ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 16 มาตรา 19 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ ของสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า ได้ดำเนินการกล่าวโทษ ต่อชายดังกล่าวทั้ง ๕ คน ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางน้ำเปรี้ยว เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2560 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการติดตามผู้ถูกกล่าวหาเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
"หากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสัตว์ป่า แจ้งสายด่วน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง"
#ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า2535 #มาตรา16 #ล่าสัตว์ป่า #มาตรา19 #มีซากสัตว์ป่า #สงวนคุ้มครอง #การอนุรักษ์สัตว์ป่า #ชี้แจงประเด็นข่าว
วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560
อุทยานแห่งชาติแม่วะ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ เร่งดับไฟป่า
อุทยานแห่งชาติแม่วะ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ เร่งดับไฟป่า พร้อมกำกับ ห้าม !! เข้าพื้นที่อุทยานฯโดยไม่รับอนุญาต
เมื่อวานนี้(6 มี.ค.60) นายเดชอนันต์ คำสวน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วะ สนธิกำลังศูนย์ไฟป่าที่ 4 เจ้าหน้าที่สถานีฯไฟป่าแม่วะ สถานีไฟป่าแจ้ซ้อน สถานีไฟป่าชีวมลฑล สถานีไฟป่าดอยขุนตาล สถานีไฟป่าภูกระดึงและเครือข่ายไฟป่าแม่วะ รวม จำนวน 88 คน ตรวจพบไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วะ จำนวน 5 จุด พื้นที่เสียหาย 86 ไร่ พื้นที่ข้างทางหลวง 1จุด พื้นที่เสียหาย 2 ไร่ ดังนี้
จุดที่ 1 บริเวณไฟไหม้ บ้านแม่ปะแพะ ม.2 ต.แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง เขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วะ
เริ่มดับเวลา 8.00 น. พื้นที่เสียหายก่อนดับ 10 ไร่
ดับเสร็จเวลา 10.00 น. พื้นที่เสียหาย 25 ไร่
เริ่มดับเวลา 8.00 น. พื้นที่เสียหายก่อนดับ 10 ไร่
ดับเสร็จเวลา 10.00 น. พื้นที่เสียหาย 25 ไร่
จุดที่ 2 บริเวณป่าห้วยแม่วะบก บ้านผดุงราษฏรรังสรรค์ ม.7 ต.แม่วะ อำเภอเถิน จ.ลำปาง เขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วะ
ตรวจพบเวลา 10.15 น.พื้นที่เสียหาย ประมาณ 8 ไร่
ดับเสร็จเวลา12.35 น.พื้นที่เสียหายประมาณ 14 ไร่
ตรวจพบเวลา 10.15 น.พื้นที่เสียหาย ประมาณ 8 ไร่
ดับเสร็จเวลา12.35 น.พื้นที่เสียหายประมาณ 14 ไร่
จุดที่ 3 บริเวณไฟไหม้ ป่าข้างทางหลวง หมายเลข 1 หลักกิโลทึ่ 613 ทัองที่บ้านหนองซาง ม.8 ต.เถินบุรี อ.เถิน จ.ลำปาง ตรวจพบเวลา 15.30 พื้นที่เสียหายก่อนดับ 1 ไร่
ดับเสร็จเวลา 16.00 น. พื้นที่เสียหาย 2 ไร่
ดับเสร็จเวลา 16.00 น. พื้นที่เสียหาย 2 ไร่
จุดที่ 4 บริเวณบ้านแม่วะหลวง ม.8 ต.แม่วะ อ.เถิน จ.ลำปาง ตรวจพบเวลาเวลา 12.19 น.พื้นที่ เสียหาย 7ไร่
ดับเสร็จเวลา 16.17 น.พื้นที่เสียหาย 17ไร่
ดับเสร็จเวลา 16.17 น.พื้นที่เสียหาย 17ไร่
จุดที่ 5 .บริเวณไฟไหม้ อ่างห้วยฮ้อม บ.แม่ปะแพะ ม.2 ต.แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง เขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วะ
ตรวจพบเวลา 13.05 พื้นที่เสียหายก่อนดับ 11ไร่
ดับเสร็จเวลา 13.55 น. พื้นที่เสียหาย 15 ไร่
ตรวจพบเวลา 13.05 พื้นที่เสียหายก่อนดับ 11ไร่
ดับเสร็จเวลา 13.55 น. พื้นที่เสียหาย 15 ไร่
จุดที่ 6 บริเวณไฟไหม้ บ.หนองเชียงราน ม.12 ต.ล้อมแรด อ.เถิน จ.ลำปาง เขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วะ
ตรวจพบเวลา 16.15 น. พื้นที่เสียหายก่อนดับ 12 ไร่
ดับเสร็จเวลา 17.05 น. พื้นที่เสียหาย 15ไร่
ตรวจพบเวลา 16.15 น. พื้นที่เสียหายก่อนดับ 12 ไร่
ดับเสร็จเวลา 17.05 น. พื้นที่เสียหาย 15ไร่
ทั้งนี้ นายเดชอนันต์ คำสวน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วะ กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติแม่วะมีพื้นที่ทั้งหมด 364,173 ไร่ ครอบคลุมในพื้นที่ อ.เถิน และ อ.แม่พริก ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนตุลาคม2559 จนถึง ณ วันนี้ได้เกิดมีไฟไหม้ป่าจำนวน 28 ครั้งรวมพื้นที่เสียหายจำนวนกว่า 580 ไร่ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากฝีมือมนุษย์ มีการลักลอบเผาป่า ตนจึงได้ประสานไปยังผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในพื้นที่ ให้เร่งประชาสัมพันธ์เน้นย้ำกับชาวบ้านว่าในช่วงนี้ให้ ห้ามเข้าพื้นที่อุทยานฯโดยไม่รับอนุญาต หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือหากพบเห็นมีการจุดไฟเผาป่าก็จะมีโทษทั้งจำและปรับอีกด้วย
อุทยานแห่งชาติแม่วะ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 - แพร่
#สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่13สาขาลำปาง ส่วนควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
#สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่13สาขาลำปาง ส่วนควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
#ควบคุมป้องกันไฟป่า #รณรงค์ลดหมอกควันไฟป่า
วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2560
อธิบดีกรมอุทยานฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานบริหารจัดการชุมชนป่าในพื้นที่อนุรักษ์
อธิบดีกรมอุทยานฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานบริหารจัดการชุมชนป่าในพื้นที่อนุรักษ์ จ.ตาก
วานนี้ (5 มี.ค.60) นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อม นายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 (ตาก) ผู้อำนวยการส่วนจัดการพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่า ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานบริหารจัดการชุมชนในพื้นที่ป่าของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตามโครงการสนธิกำลังเพื่อปฏิบัติงานตามคำสั่ง คสช. 64/2557 และ 66/2557 บริเวณบ้านม้งกิ่วสามล้อ ตำบลแม่ตื่น อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ณ หน่วยฟื้นฟูป่าต้นน้ำเนินเขาน้ำหวาน ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น
จากนั้นเดินทางไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง และอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช เพืี่อติดตามการปฏิบัติฯ อีกด้วย
จากนั้นเดินทางไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง และอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช เพืี่อติดตามการปฏิบัติฯ อีกด้วย
ชาวบ้านแม่ยม พร้อม เจ้าหน้าที่ เร่งช่วยดับไฟป่า พบเสียหายกว่า 30 ไร่
ชาวบ้านแม่ยม พร้อม เจ้าหน้าที่ เร่งช่วยดับไฟป่า พบเสียหายกว่า 30 ไร่
(5 มี.ค.60)นายชูเกียรติ ดอกเข็ม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าแม่ยม ได้รายงานว่า เกิดเหตุ ไฟไหม้บริเวณป่าห้วย ข้าวหลาม (ป่าอนุรักษ์) บ้านนาฝาย หมู่ 2 ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ จึงจัดชุดปฏิบัติการดับไฟป่าสถานีฯไฟป่าแม่ยม ร่วมกับ ที่อุทยานแห่งชาติแม่ยม พร้อมด้วยชุดดับไฟป่าผู้ใหญ่บ้านนาฝาย หมู่ 2
พบพื้นที่เสียกว่า 30 ไร่
พบพื้นที่เสียกว่า 30 ไร่
#ไฟป่า #สถานีควบคุมไฟป่า #อุทยานแห่งชาติแม่ยม #แพร่
วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560
"ยอดเขาเหมน" อีกหนึ่งความงามของอุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง
พิสูจน์ความกล้า ท้าทายความสามารถที่ "ยอดเขาเหมน" อีกหนึ่งความงามของอุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง
ยอดเขาเหมน (Khao Men Peak) มาจากชื่อที่เรียกกันย่อๆ ของ "เขาพระสุเมรุ" เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง สูงประมาณ 1,307 เมตร จากระดับน้ำทะเล ปานกลาง อากาศหนาวเย็น ลมพัดแรงและมีเมฆปกคลุมเกือบทั้งปี จุดชมทิวทัศน์ยอดเขาเหมนจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้โดยรอบ สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ ขึ้นและพระอาทิตย์ตก จะมองเห็นที่ตั้งของชุมชน อำเภอนาบอน อำเภอทุ่งสง อำเภอช้างกลาง และอำเภอลานสกาได้อย่างชัดเจน

รวมทั้งพืชอิงอาศัยหลายชนิดขึ้นอย่างหนาแน่นส่วนใหญ่เป็นพืชวงศ์ก่อ แดงเขา ทะโล้ โกงกางเขา โคลงเคลง บิโกเนีย และที่สำคัญคือ บัวแฉกใหญ่ และพืชในตระกูล ขิง – ข่า นอกจากนี้ยังมีกล้วยไม้ป่าชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะกล้วยไม้รองเท้านารีพันธุ์คางกบใต้ ซึ่งเป็นกล้วยไม้ประจำถิ่นด้วย
การขึ้นเขาเหมน ควรติดต่อกับเจ้าหน้าอุทยานฯ โดยตรงนะคะ เพราะจะได้คนนำทางที่ถูกต้องจริงๆ และยังได้ข้อมูลที่แท้จริงในการเดินเท้าในเส้นทางที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยงกำหนดไว้มีจุดเริ่มต้น 2 แห่ง คือ จากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ตย.1 (น้ำตกคลองจัง) เดินเท้าผ่านเนิน 499 ถึงยอดเขาเหมน ระยะทางประมาณ 4,444 เมตร หรือว่าจ้างให้รถไปส่งที่เนิน 499 แล้วเริ่มเท้าจากเนิน 499 ถึงยอดเขาเหมน ระยะทาง 2,878 เมตร
อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง #สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่5 #นครศรีธรรมราช#DNP1362
วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
พบชาวบ้านเผาพื้นที่เกษตรใน อ.พบพระ จ.ตาก
พบชาวบ้านเผาพื้นที่เกษตรใน อ.พบพระ จ.ตาก
(28ก.พ.60) นายสุรศักดิ์ คำปาแก้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ (เตรียมการ) แจ้งว่า เมื่อวานนี้ (27 ก.พ.60) เวลา 17.00น. เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าน้ำตกพาเจริญที่ 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ไฟป่าขุนพะวอ-น้ำตกพาเจริญ และ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ได้ตรวจสอบพื้นที่ พบชาวบ้านเผาไร่ บริเวณนอกเขตอุทยานฯซึ่งพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน แต่หากไม่สามารถดับทันอาจอาจลุกลามไปในพื้นที่ป่าใกล้เคียงได้อันจะ ส่งผลต่อมลพิษทางอากาศและปัญหาหมอกควัน เจ้าหน้าที่ จึงเข้าจับกุมและส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย พรบ.สิ่งแวดล้อม ต่อไป
ทั้งนี้ หากมีการลามเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ อาจมีควาทผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ต้องโทษจำคุกระหว่าง 2 - 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 150,000 บาท และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 220 ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆ แม้เป็นของตนเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ สิบสี่ ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ ตาก #สถานีควบคุมไฟป่าขุนพะวอน้ำตกพาเจริญ #เผาป่า#หมอกควัน #DNP1362
อุทยานแห่งชาติศรีพังงา จัดโครงการ" ปลูกป่าเพื่อชีวิต"
อุทยานแห่งชาติศรีพังงา จัดโครงการ" ปลูกป่าเพื่อชีวิต"
(27 ก.พ. 2560) อุทยานแห่งชาติศรีพังงา ได้ดำเนินกิจกรรมโครงการปลูกป่าเพื่อชีวิตในเขตอุทยานแห่งชาติ (Plants for Life) ณ ศูนย์เรียนรู้การเพาะชำกล้าไม้และการปลูกป่า อุทยานแห่งชาติศรีพังงา โดยมีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 40 คน
ที่มา เกียรติกุล ขอจิตต์เมตต์
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีพังงา
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีพังงา
วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
NCAPS แจ้งเตือน !! รวบตัวขบวนการค้าไม้พะยูงปางสีดา ยกแก๊ง
NCAPS แจ้งเตือน !! รวบตัวขบวนการค้าไม้พะยูงปางสีดา ยกแก๊ง
(17 ก.พ.60) นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน แจ้งว่า วานนี้ (16 ก.พ 60) คณะเจ้าหน้าที่สายตรวจอุทยานแห่งชาติทับลาน ร่วมกับ ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าวังมืด เจ้าหน้าที่ทหาร ร.2 พัน 3 รอ. และฝ่ายปกครองอำเภอนาดี ได้ร่วมกันจับกุมผู้กระทำผิดบริเวณป่าห้วยคำภู ท้องที่หมู่ 3 บ้านวังอ้ายป่อง ตำบลแก่งดินสอ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 15 ก.พ.2560 ระบบ NCAPS ได้แจ้งเตือนว่า เวลา 00.45 น. พบบุคคลกำลังเดินเข้าภายในป่าเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน และเวลา 07.39 น. พบบุคคลกำลังเดินออกมาจากป่าในเขตอุทยานแห่งชาติลาน และในช่วงเวลา 15.38 น. พบกลุ่มบุคคลกำลังเดินถือขวดน้ำเข้าไปในป่าเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน

จากนั้น เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้วางกำลังดักซุ่มต่อเนื่องจนเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 16 ก.พ.2560 พบกลุ่มคนเดินแบกไม้พยูงลงมาจากป่า จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม และสามารถควบคุมตัวชายชาวกัมพูชา ได้จำนวน 6 คน เป็น พร้อมของกลางไม้พะยูงแปรรูป จำนวน 69 แผ่น จึงได้ประสาน เจ้าหน้าที่ทหาร ร.2 พัน 3 รอ. โดยอาศัยอำนาจตามคำสั่ง คสช. ที่ 13/2559 เพื่อควบคุมตัว สืบสวน สอบสวน และขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำผิด ซึ่งต่อมาได้ให้ผู้ต้องหาชาวไทยประสานติดต่อนายทุนให้เข้ามารับซื้อไม้พะยูงได้ จึงได้ร่วมกันวางแผนและสามารถจับกุมชายชาวไทยได้อีก จำนวน 2 คน ทราบชื่อ คือ นายเฉลิมพล ประยูรเธียร อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 127 ม. 2 ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และ นายเฉลิมพล สมบูรณ์พงษ์ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 57 ม. 3 ต.คลองทับจันทร์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการแจ้งเตือนของระบบ NCAPS ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 10 คน โดยเป็นชาวไทย 4 คน และชาวกัมพูชา 6 คน ส่วนของกลางที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ ประกอบด้วย อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9MM จำนวน 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9MM จำนวน 28 นัด เงินสด 103,600 บาท และ รถยนต์ Nissan รุ่น Teana จำนวน 1 คัน เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อุทยานแห่งชาติทับลาน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ หนึ่ง ปราจีนบุรี
#NCAPS #Dnp1362 #สนธิกำลัง #ไม้พะยูง #ป้องกันปราบปราม
วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
ทะเลสวย น้ำใส อีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวอุทยานไทย ห้ามพลาด!!
ทะเลสวย น้ำใส อีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวอุทยานไทย ห้ามพลาด!!

หมู่เกาะสิมิลัน ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติของประเทศไทย ลำดับที่ 43 ในปี พ.ศ. 2525 มีขนาดพื้นที่ 128 ตารางกิโลเมตร (80,000 ไร่) และในปี 2541 ได้ผนวกพื้นที่บริเวณ “เกาะตาชัย” เพิ่มอีก 12 ตารางกิโลเมตร เข้าเป็นอุทยานแห่งชาติครอบคลุมพื้นที่เกาะและห้วงน้ำทะเลรอบเกาะที่มีปะการังสมบูรณ์ ในท้องที่เกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา รวมเป็นเนื้อที่ประมาณ 140 ตารางกิโลเมตร
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ทะเลอันดามัน ที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อยู่ห่างจากท่าเทียบเรือทับละมุ อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ประมาณ 70 กิโลเมตร และห่างจากท่าเทียบเรือหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ประมาณ 90 กิโลเมตร เกาะเมียงหรือเกาะสี่เป็นที่ตั้ง

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ฉก.พญาเสือ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ลงสำรวจพื้นที่กระบี่ พบมีการบุกรุกอุทยานฯ เพิ่มกว่า 10 ไร่
ฉก.พญาเสือ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ลงสำรวจพื้นที่กระบี่ พบมีการบุกรุกอุทยานฯ เพิ่มกว่า 10 ไร่
วันนี้(15 ก.พ. 60) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยพญาเสือ พร้อมนายโอภาส นวลมังสอ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่5 นายสุรศักดิ์ อนุสร ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 และเจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา เข้าตรวจยึดพื้นที่ในท้องที่ ต.อ่าวนาง อ.อ่าวนาง จ.กระบี่ พื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา พบมีการบุกรุกพื้นที่ แผ้วถาง โคนต้นไม้จำนวนมาก กานไม้ และทำไม้ ในพื้นที่ลาดชันเกิน100% พร้อมทั้งมีการแสดงความเป็นเจ้าของโดยการนำ กล้าปาล์มน้ำมัน มาปลูกแซม ในป่าธรรมชาติ
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ พบหลักฐาน นำ สค 1 มายื่นที่ดินเพื่อออกเอกสารโฉนดที่ดิน ผู้ยื่นขอออกโฉนดชื่อนายโสภณ อ่อนทอง บ้านเลขที่ 12 ม.5 ต. อ่าวนาง อ. เมือง จ.กระบี่ หัวหน้าหน่วยพญาเสือพร้อมนายอุดมพร ได้เปิดภาพถ่าย ที่มีการถ่ายทอดลงแผนที่ ตามพระราชกฤษฏีกา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา พบว่า นายโสภณฯ ได้ขอออกเอกสารโฉนดที่ดินในเขต อุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา มีเนื้อที่ 13-2-86 และยังพบอีกว่า ในพื้นที่เดียวกันมีผู้ครอบครองซึ่งได้แจ้งชื่อครอบครองแปลงตาม มติ ครม 30 มิย 41 ไว้ จำนวนที่ซ้อนทับ(ในเขต อช) เนื้อที่ 5 -3-12 ไร่เป็นของ น.ส. วัชรินทร ภริตาธนาวรัตน ซ้อนทับอยู่ส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเมื่อพิจารณาแล้วน่าจะมีการซื้อขายเปลี่ยนมือไปแล้ว จนนายโสภณฯ นำที่ดินในแปลงมติ ครม ปี 41 มาออกด้วย นั้น ตามระเบียบแล้ว แปลง มติ ครม 30 มิย 41 ไม่สามารถขาย จ่าย โอนให้กับบุคลอื่นได้ และต้องทำกินต่อเนื่องห้ามมีการบุกรุกเพิ่มเติม แล้วถ้าบุคลใดที่ได้กระทำการดังกล่าว จะถูกเพิกถอนสิทธิทันที แต่ในพื้นที่แปลงที่นายโสภณ อ่อนทอง ได้นำไปออกโฉนดที่ดิน กับที่ดิน จ. กระบี่ ซึ่งบ้างส่วนเป็นป่าและมีสภาพเป็นป่าดิบ ความลาดชันเกินที่กฏหมายที่ดินกำหนด และ จะยึดถือครอบครอง พื้นที่ อุทยานแห่งชาติโดยเจตนาและทำการบุกรุกแผ้วถาง กานไม้ ทำไม้ และปลูกพืชต่างถิ่น ในพื้นที่ อุทยาน
เจ้าหน้าที่ จึงได้ร่วมกันบันทึกตรวจยึด กล่าวโทษกับนายโสภณ อ่อนทอง ข้อหาบุกรุก ยึดถือครอบครอง การทำไม้ โดยเจตนา พื้นที่ อุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา เนื้อที่ 18-3-0ไร่ และพื้นที่ อีกส่วนเป็นป่าที่ติดต่อกันยังนอกเขตอุทยานแห่งชาติ เป็นป่าสงวน อีก 5-0-14 ไร่ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึด ไว้แล้ว
ที่มา : ฉก.อส. พญาเสือ
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
นักวิจัยฯ กรมอุทยาน ค้นพบพืช 8 ชนิดใหม่ของโลก
นักวิจัยฯ กรมอุทยาน ค้นพบพืช 8 ชนิดใหม่ของโลก
ตั้งชื่อ 'ช้องเจ้าฟ้า' เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ
ตั้งชื่อ 'ช้องเจ้าฟ้า' เทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ
สำหรับพืชพันธุ์ใหม่ที่ค้นพบ ได้แก่
1.ช้องเจ้าฟ้า "sirindhorniana"
2.ยมหินปูน "calcicola"
3.ชะนูดต้นแก่งกระจาน
4.หญ้าคางเลือยตะนาวศรี
5.หญ้าคางเลือยเขาใหญ่
6.ว่านแผ่นดินเย็นแม่โขง
7.ว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรัง
8.ว่านแผ่นดินเย็นล้านนา "marmorata"
2.ยมหินปูน "calcicola"
3.ชะนูดต้นแก่งกระจาน
4.หญ้าคางเลือยตะนาวศรี
5.หญ้าคางเลือยเขาใหญ่
6.ว่านแผ่นดินเย็นแม่โขง
7.ว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรัง
8.ว่านแผ่นดินเย็นล้านนา "marmorata"
ทั้งนี้ตัวอย่างของพืชชนิดใหม่ทั้งหมด ถูกเก็บรักษาไว้ที่สำนักหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
1.ช้องเจ้าฟ้า ซึ่งเป็นไม้ต้นชนิดใหม่ของโ ลกที่พบได้ตามเขาหินปูนตั้ง แต่บริเวณชายแดนเมียนมา ใน จ.กาญจนบุรี ไปจนถึงดอยหัวหมด อ.อุ้มผาง จ.ตาก อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง และดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ ช้องเจ้าฟ้า ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนอ ร์ดิก เจอร์นัล ออฟ โบทานี เล่มที่ 32 ในปี 2014 ตั้งชื่อคำระบุชนิดว่า "sirindhorniana" ซึ่งเป็นการเทิดพระเกียรติส มเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยวารสารดังกล่าวระบุว่าพระ องค์ทรงเป็นผู้สนับสนุนอย่า งเข้มแข็งในการอนุรักษ์ความ หลากหลายทางชีวภาพในประเทศไ ทย
2.ยมหินปูน เป็นไม้ต้นชนิดใหม่ของโลกที ่พบขึ้นตามซอกหินปูนบริเวณส วนสวรรค์ วนอุทยานสวนหินผางาม อ.หนองหิน จ.เลย ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Thai ForestBulletin (Botany) เล่มที่ 43 ปี 2015 โดยทีมงานนักพฤกษศาสตร์จากส ำนักงานหอพรรณไม้ ร่วมกับทีมงานนักพฤกษศาสตร์ ญี่ปุ่น ด้วยคำระบุชนิด "calcicola" หมายถึงหินปูนซึ่งเป็นแหล่ง ที่พืชชนิดนี้ขึ้นอยู่
3.ชะนูดต้นแก่งกระจาน พบขึ้นตามป่าดิบเขาบริเวณพะ เนินทุ่งอุทยานแห่งชาติแก่ง กระจาน จ.เพชรบุรี ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) เล่มที่ 43 ปี 2015 โดยทีมงานนักพฤกษศาสตร์สำนั กหอพรรณไม้ร่วมกับทีมงานนัก พฤกษศาสตร์จากญี่ปุ่น
4.หญ้าคางเลือยตะนาวศรี เป็นพืชล้มลุกชนิดใหม่ของโล ก พบขึ้นตามเขาหินปูนตามแนวเท ือกเขาตะนาวศรีในไทยและเมีย นมา ซึ่งในไทยพบได้ที่บริเวณ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และดอยหัวหมด อ.อุ้มผาง จ.ตาก ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Kew Bulletin เล่มที่ 71 ปี 2016
ทั้งนี้ ช้องเจ้าฟ้า ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนอ
2.ยมหินปูน เป็นไม้ต้นชนิดใหม่ของโลกที
3.ชะนูดต้นแก่งกระจาน พบขึ้นตามป่าดิบเขาบริเวณพะ
4.หญ้าคางเลือยตะนาวศรี เป็นพืชล้มลุกชนิดใหม่ของโล
5.หญ้าคางเลือยเขาใหญ่ เป็นไม้พืชล้มลุกชนิดใหม่ขอ งโลกพบขึ้นตามป่าดิบเขา โดยเฉพาะบริเวณเขาเขียว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Kew Bulletin เล่มที่ 71 ปี 2016
6.ว่านแผ่นดินเย็นแม่โขง เป็นกล้วยไม้ดินชนิดใหม่ของ
7.ว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรัง
8.ว่านแผ่นดินเย็นล้านนา เป็นกล้วยไม้ชนิดใหม่ของโลก
ทั้งนี้ตัวอย่างของพืชชนิดใ
วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
เร่งดับไฟป่า กาญจนบุรี คาดเหตุจากชาวบ้านจุดหาของป่า
เร่งดับไฟป่า กาญจนบุรี คาดเหตุจากชาวบ้านจุดหาของป่า
นายจรัญ สามงามเขียว หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าสลักพระ-เอราวัณ จ.กาญจนบุรี รายงานว่า วานนี้ (8 ก.พ.60) เวลา 04.00 น.ได้รับแจ้งว่ามีไฟป่าบริเวณบ้านหมอเฒ่า ม.2 ต.ช่องสะเดา
อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าเร่งดำเนินการดับไฟ แล้วเสร็จในเวลา 06.00 น.จากการตรวจสอบพบพื้นที่เสียหายประมาณ 20 ไร่
อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าเร่งดำเนินการดับไฟ แล้วเสร็จในเวลา 06.00 น.จากการตรวจสอบพบพื้นที่เสียหายประมาณ 20 ไร่
ในเวลา 14.30 น.เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่าเกิดไฟป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดำเนินการและสามารถดับไฟ เสร็จเวลา 16.20 น.พบพื้นที่เสียหายประมาณ 10 ไร่ ซึ่งสาเหตุ ในการเกิดไฟป่าทั้ง สองจุดเกิดจากประชาชนเข้าไปหาของป่าในพื้นที่
สภาพป่าของพื้นที่ทั้งสองส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณที่มีไม้ไผ่ขึ้นเป็นจำนวนมาก เมื่อถึงหน้าแล้งไม้ไผ่จะมีการผลัดใบ กิ่งลำต้นบางส่วนแห้งตาย และมีการตายขุย เมื่อเกิดไฟป่า ป่าไม้ซึ่งมีความหนาแน่นของไม้ไผ่ในปริมาณมาก จะเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้ปัญหาไฟป่าในพื้นที่มีความรุนแรง และเกิดการไหม้ลุกลามอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้การควบคุม และดับไฟป่ากระทำได้ยาก ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทั้งทางกายภาพ และชีวภาพ อีกทั้ง จังหวัดกาญจนบุรี มีสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง จึงเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าได้ง่าย
การจุดไฟเผาป่า หรือปล่อยให้ไฟลุกลามเข้าไปในเขตป่าอนุรักษ์ มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 150,000 บาท และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆ แม้จะเป็นของตนเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์ของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นไฟไหม้ป่า หรือไฟไหม้ตามสถานที่ต่างๆ สามารถแจ้งเหตุได้ที่ สายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง

วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
กรมอุทยานฯ - กรมศุลฯ - ตร. ร่วมแถลงข่าวตรวจยึดเกล็ดลิ่นลักลอบผ่านแดน จำนวน 2.9 ตัน มูลค่า กว่า 29 ล้านบาท
กรมอุทยานฯ - กรมศุลฯ - ตร. ร่วมแถลงข่าวตรวจยึดเกล็ดลิ่นลักลอบผ่านแดน จำนวน 2.9 ตัน มูลค่า กว่า 29 ล้านบาท
วันนี้ ( 2 ก.พ. 2560) เวลา 10.00 น.นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรี วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดเกล็ดลิ่นลักลอบผ่านแดนจากทวีปแอฟริกา จำนวน 2.9 ตัน มูลค่าประมาณ 29 ล้านบาท ณ กรมศุลกากร คลองเตย
สถานการณ์การลักลอบค้าลิ่นและเกล็ดลิ่นในปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ลิ่นเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ในการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ครั้งที่ 17 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 กันยายน – 5 ตุลาคม 2559 ณ นครโจฮันเนสเบิร์ก สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ที่ประชุมจึงมีมติให้ปรับระดับลิ่นขึ้นเป็นสัตว์ในบัญชี 1 ของอนุสัญญา CITES ซึ่งห้ามนำเข้า ส่งออก และนำผ่านอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับงาช้าง นอแรด เสือ โดยให้มีผลบังคับเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 และได้มีข้อตัดสินใจที่กำหนดให้มีการบังคับใช้กฎหมายในการจัดการการค้าลิ่นผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด และเสริมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและระหว่างประเทศ เพื่อร่วมมือในการดำเนินการและแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านเส้นทางการค้า รูปแบบ และการบังคับใช้กฎหมายเพื่อต่อสู้กับการค้าลิ่นผิดกฎหมาย
ด้วยเหตุนี้ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากรจึงได้มีนโยบายให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้าสัตว์ป่าอย่างเข้มงวด เพื่อปกป้องสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ของประเทศไทยและโลก ด้วยการดำเนินการตามมติที่ประชุมของภาคีอนุสัญญา CITES โดยให้กรมศุลกากรบูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมทั้งได้สั่งการมอบหมายให้ นายไพศาล ชื่นจิตร ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นายวรวุฒิ วิบูลย์ศิริชัย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม นายสรศักดิ์ มีนะโตรี ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเดชา วิชัยดิษฐ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 3 สำนักสืบสวนและปราบปราม และนายเชาวน์ ตะกรุดเงิน หัวหน้าฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 2 ส่วนสืบสวนปราบปราม 3 ร่วมกันวางแผนสกัดกั้นขบวนการลักลอบลิ่นและเกล็ดลิ่นผิดกฎหมาย
ด้วยเหตุนี้ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากรจึงได้มีนโยบายให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้าสัตว์ป่าอย่างเข้มงวด เพื่อปกป้องสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ของประเทศไทยและโลก ด้วยการดำเนินการตามมติที่ประชุมของภาคีอนุสัญญา CITES โดยให้กรมศุลกากรบูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมทั้งได้สั่งการมอบหมายให้ นายไพศาล ชื่นจิตร ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นายวรวุฒิ วิบูลย์ศิริชัย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม นายสรศักดิ์ มีนะโตรี ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเดชา วิชัยดิษฐ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 3 สำนักสืบสวนและปราบปราม และนายเชาวน์ ตะกรุดเงิน หัวหน้าฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 2 ส่วนสืบสวนปราบปราม 3 ร่วมกันวางแผนสกัดกั้นขบวนการลักลอบลิ่นและเกล็ดลิ่นผิดกฎหมาย
จากการประสานความร่วมมือของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายได้มีการบูรณาการการข่าวและการสืบสวนติดตามขบวนการลักลอบค้าเกล็ดลิ่นข้ามชาติในเส้นทางเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง และทราบว่าจะมีการลักลอบนำเกล็ดลิ่นจากประเทศคองโกผ่านประเทศไทย อ้างว่าเป็นสินค้าผ่านแดนไป สปป.ลาว ข้อเท็จจริงปรากฏ ดังนี้
1. เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2559 เที่ยวบินที่ TK064 เจ้าหน้าที่ได้อายัดสินค้าสำแดงชนิดสินค้าเป็น SCALES (เกล็ด) จำนวน 24 หีบห่อ น้ำหนัก 1,200 กิโลกรัม ขนส่งจากเมืองกินชาซา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ด้วย ผ่านประเทศตุรกีและประเทศไทย ปลายทางเวียงจันทน์ สปป.ลาว เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบสินค้าต้องสงสัยด้วยการเอ็กซเรย์ ผลปรากฏพบ เกล็ดลิ่น น้ำหนัก 1,200 กิโลกรัม
2. เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2559 เที่ยวบินที่ TK064 เจ้าหน้าที่ได้อายัดสินค้าสำแดงชนิดสินค้าเป็น SCALES (เกล็ด) จำนวน 10 หีบห่อ น้ำหนัก 500 กิโลกรัม ขนส่งจากเมืองกินชาซา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ด้วย ผ่านประเทศตุรกีและประเทศไทย ปลายทางเวียงจันทน์ สปป.ลาว เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบสินค้าต้องสงสัยด้วยการเอ็กซเรย์ ผลปรากฏพบ เกล็ดลิ่น น้ำหนัก 500 กิโลกรัม
3. เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559 เที่ยวบินที่ TK064 เจ้าหน้าที่ได้อายัดสินค้าต้องสงสัยอีก 1 รายการ สำแดงชนิดสินค้าเป็น SCALES (เกล็ด) จำนวน 24 หีบห่อ น้ำหนัก 1,200 กิโลกรัม โดยใช้เส้นทางเช่นเดียวกับคดีข้างต้น และทำการตรวจสอบสินค้าต้องสงสัยด้วยการเอ็กซเรย์ ผลปรากฏพบ เกล็ดลิ่น น้ำหนัก 1,200 กิโลกรัม
1. เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2559 เที่ยวบินที่ TK064 เจ้าหน้าที่ได้อายัดสินค้าสำแดงชนิดสินค้าเป็น SCALES (เกล็ด) จำนวน 24 หีบห่อ น้ำหนัก 1,200 กิโลกรัม ขนส่งจากเมืองกินชาซา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ด้วย ผ่านประเทศตุรกีและประเทศไทย ปลายทางเวียงจันทน์ สปป.ลาว เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบสินค้าต้องสงสัยด้วยการเอ็กซเรย์ ผลปรากฏพบ เกล็ดลิ่น น้ำหนัก 1,200 กิโลกรัม
2. เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2559 เที่ยวบินที่ TK064 เจ้าหน้าที่ได้อายัดสินค้าสำแดงชนิดสินค้าเป็น SCALES (เกล็ด) จำนวน 10 หีบห่อ น้ำหนัก 500 กิโลกรัม ขนส่งจากเมืองกินชาซา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ด้วย ผ่านประเทศตุรกีและประเทศไทย ปลายทางเวียงจันทน์ สปป.ลาว เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบสินค้าต้องสงสัยด้วยการเอ็กซเรย์ ผลปรากฏพบ เกล็ดลิ่น น้ำหนัก 500 กิโลกรัม
3. เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559 เที่ยวบินที่ TK064 เจ้าหน้าที่ได้อายัดสินค้าต้องสงสัยอีก 1 รายการ สำแดงชนิดสินค้าเป็น SCALES (เกล็ด) จำนวน 24 หีบห่อ น้ำหนัก 1,200 กิโลกรัม โดยใช้เส้นทางเช่นเดียวกับคดีข้างต้น และทำการตรวจสอบสินค้าต้องสงสัยด้วยการเอ็กซเรย์ ผลปรากฏพบ เกล็ดลิ่น น้ำหนัก 1,200 กิโลกรัม
หลักการของอนุสัญญา CITES การส่งออกสัตว์ตามบัญชี 2 จะต้องได้รับใบอนุญาต CITES จากประเทศ ผู้ส่งออกและรับรองว่าไม่กระทบกระเทือนต่อการดำรงอยู่ในธรรมชาติ หากไม่มีการอนุญาตส่งออกจะไม่สามารถส่งออกสินค้าไปยังประเทศปลายทางได้ ซึ่งทั้ง 3 กรณีข้างต้น ตัวแทนออกของไม่สามารถนำใบอนุญาต CITES ตัวจริงมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ ประกอบกับต้นทางของสินค้าเป็นประเทศเสี่ยงในการลักลอบเกล็ดลิ่น เจ้าหน้าที่จึงได้อายัดสินค้าทั้งหมดเพื่อนำไปตรวจสอบโดยละเอียด โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ประสานความร่วมมือไปยัง สปป.ลาว เพื่อตรวจสอบใบอนุญาตนำเข้า ซึ่งต่อมาได้รับการยืนยันว่าไม่มีการออกใบอนุญาตนำเข้าเกล็ดลิ่นแต่อย่างใด และสำนักงานเลขาธิการ CITES ได้ประสานงานสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกตรวจสอบข้อมูลใบอนุญาตส่งออก ผลการตรวจสอบพบว่าสำเนาใบอนุญาตส่งออกนั้นไม่ถูกต้อง พร้อมให้สืบสวนข้อเท็จจริงในการออกใบอนุญาตส่งออกดังกล่าว
กรณีดังกล่าวเป็นความผิดฐานนำของต้องห้ามต้องกำกัดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พระพุทธศักราช 2469 ประกอบมาตรา 16 และมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 นำผ่านสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่าหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามมาตรา 23 และมาตรา 24 แห่ง พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดเกล็ดลิ่นทั้งหมดไว้เป็นของกลาง สำนวนคดีส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายและเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
อนึ่ง ตั้งแต่ปี 2555 ถึงปัจจุบัน กรมศุลกากรได้เคยตรวจยึดเกล็ดลิ่นจากทวีปแอฟริกามาแล้ว จำนวน 9 คดี น้ำหนักของกลางรวม 3.4 ตัน มูลค่ากว่า 35 ล้านบาท คดีส่วนใหญ่มีต้นทางจากประเทศไนจีเรีย ผ่านประเทศตุรกี ประเทศไทย เพื่อไปยังปลายทาง สปป.ลาว
ที่มา
ข้อมูล : กรมศุลกากร
ภาพ : ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ
ภาพ : ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ
วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
เขาคิชฌกูฏ จัดระเบียบใหม่ หวังประชาชนเข้าใจ เพื่อความสะดวกปลอดภัยและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติฯ
เขาคิชฌกูฏ จัดระเบียบใหม่ หวังประชาชนเข้าใจ เพื่อความสะดวกปลอดภัยและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติฯ
งานนมัสการรอยพระพุทธบาท ( พลวง ) เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ปีนี้ กำหนดเปิดให้ประชาชน พุทธศาสนิกชน นักแสวงบุญขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทได้ตลอด 24 ชั่วโมงในระหว่างวันที่ 28 มกราคม ถึง 28 มีนาคม 2560
เมื่อวันที่ 31 ม.ค 60 นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า งานนมัสการรอยพระพุทธบาท ( พลวง ) เขาคิชฌกูฏปีนี้ และอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏและทางจังหวัดได้เน้นเรื่องของความปลอดภัย และ ความสะอาด อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เพื่อความปลอดภัยของประชาชน จึงมีการวางระเบียบใหม่ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติหลายเรื่อง โดยสำหรับรถบริการของคนในท้องถิ่นอำนวยที่ความสะดวก รับ –ส่ง ขึ้นเขา รวม 142 คัน แบ่งเป็น 3 คิว คือ ที่วัดพลวง / วัดกระทิง และ หน้าที่ว่าการอำเภอเขาคิชฌกูฏ โดยสามารถให้รถวิ่งยาวจากพื้นราบไปบนยอดเขาจุดพระศิวลีได้ ไม่มีการต่อรถ กลางเขาเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา อัตราค่าโดยสารเที่ยวละ 100 บาทแต่ละเที่ยวรถจะใช้เวลา ขึ้น - ลงเขาประมาณ 1 ชั่วโมง จากระยะทาง 9 กิโลเมตร 148 โค้ง ซึ่งรถบริการให้บรรทุกผู้โดยสารได้คันละ 10 คน รวมคนขับเป็น 11 คน ร้านค้าที่เคยอำนวยความสะดวกขายของบนยอดเขา ยกเลิกไม่ให้มีร้านค้าทั้งสิ้น ส่วนดอกไม้โดยเฉพาะดอกดาวเรืองให้ผู้ที่ขึ้นไปกราบไหว้วางไว้ได้ที่เนินพระเมตตาซึ่งอยู่ห่างจากรอยพระพุทธบาทประมาณ 800 เมตร ในส่วนของรอยพระพุทธบาทห้ามนำดอกไม้เข้าไปวางสักการะ เพื่อให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้เห็นรอยพระพุทธบาทอย่างชัดเจนและเป็นการบริหารจัดการเรื่องขยะ ส่วนอาหารขอให้ประชาชนที่จะขึ้นไปบนยอดเขาเตรียมอาหารและน้ำดื่ม ขึ้นไปด้วยตนเอง และหลังจากรับประทานเสร็จให้เก็บขยะลงมาทิ้งด้านล่าง เนื่องจากร้านอาหารด้านบนที่เคยมีถูกยกเลิกการให้บริการทั้งหมดเพื่อให้ประชาชนที่ขึ้นไปได้ชื่นชมทัศนียภาพ ธรรมชาติที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ในส่วนของอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ปีนี้มีการเก็บค่าธรรมเนียมการเข้าอุทยานฯ ตามระเบียบของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในอัตราผู้ใหญ่ 10 บาท เด็ก 5 บาท ส่วนชาวต่างชาติเสียค่าธรรมเนียม 100 บาท เด็ก 50 บาท และเปิดให้ขึ้น - ลง เขาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนผู้ที่ประสงค์จะเดินเท้าขึ้นเขาก็สามารถเดินขึ้น ลง เขาได้ตามสะดวก แต่ขอให้เตรียมอาหาร และน้ำดื่มขึ้นไปเอง รวมทั้งหากขึ้นกลางคืนเตรียมไฟฉายส่องสว่างด้วยก็จะดี ซึ่งทางอุทยานฯ จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยตลอดเวลา
ที่มา
ข้อมูล : สำนักอุทยานแห่งชาติ
ภาพ : นายนิพนธ์ ภิญโญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ
ข้อมูล : สำนักอุทยานแห่งชาติ
ภาพ : นายนิพนธ์ ภิญโญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ
วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560
จำคุกอดีตสารวัตร สภ.ปราณบุรี ลักลอบล่าสัตว์ในอุทยานแก่งกระจาน หลังคดียืดยื้อมากว่า 5 ปี
จำคุกอดีตสารวัตร สภ.ปราณบุรี ลักลอบล่าสัตว์ในอุทยานแก่งกระจาน หลังคดียืดยื้อมากว่า 5 ปี
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 60 ศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้อ่านคำพิพากษาฏีกาในคดีที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ แก่งกระจานในสมัยนั้น นำกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าแกะรอยเข้าติดตามจับกุมกลุ่มนายพราน ที่มีนายตำรวจระดับสารวัตรยศ พ.ต.ท.ร่วมทีมรวม 9 คน พร้อมด้วยอาวุธปืนเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ของกลางทั้งกบทูตและซากกระจง พร้อมภาพถ่ายที่กลุ่มพรานถ่ายทั้งภาพนิ่งและภาพวีดีโอไว้ ขณะเข้าไปล่าและพักค้างแรม โดยแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2555 ซึ่งในวันนี้ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลอุธรณ์ โดยจำคุกพ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี 10 เดือน ส่วนรายอื่นๆ ถูกจำคุกเช่นเดียวกันตามความผิด
สำหรับคดีนี้กลายเป็นข่าวโด่งดังเมื่อสมัยนายสุทธิพงษ์ ตันบุญยศิริเดช อดีตนายอำเภอแก่งกระจานในสมัยนั้นเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ลงนามในสำนวนหนังสือส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการจังหวัดเพชรบุรี เสนอสั่งฟ้องคดีผู้ต้องหาเพียงแค่ 8 คน เว้นพ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สารวัตรสภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยศในขณะนั้น ขัดแย้งต่อภาพหลักฐานที่ปรากฏมาทางสื่อทั้งภาพนิ่งและภาพวีดีโอ ที่มีพ.ต.ท.ธีรยุทธ ร่วมอยู่ด้วย กระทั่งทางกรมการปกครองได้สั่งกรรมการสอบสวน กระทั่งอัยการภาค 7 ในสมัยนั้นมีคำสั่งให้สอบเพิ่มเติม 12 ประเด็น และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งพล.ต.ท.จรัมพร สุรมณี ลงมาทำการตรวจสำนวนและทำพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้ง 12 ประเด็น กระทั่งอัยการจังหวัดเพชรบุรี มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ส่วนนายสุทธิพงศ์ ถูกคำสั่งเด้งไปช่วยราชการที่วิทยาลัยการปกครอง เนื่องจากส่งสำนวนไปยังอัยการ โดยไม่ผ่าน ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีในขณะนั้นและเห็นว่าเป็นความบกพร่อง
คดีนี้เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ 4817/2556 หมายเลขแดงที่ 1643/2557 พนักงานอัยการ จังหวัดเพชรบุรี เป็นโจทย์ฟ้องพ.ต.ท. ธีรยุทธ เกตุมั่งมี อดีตสารวัตรสภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมพวกประกอบด้วย นายสุชิน กลัดหลำ กับพวกรวม 9 คนจำเลย เรื่องพรบ.อาวุธปืนฯ,พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ,พรบ.อุทยานแห่งชาติฯและพรบ.ป่าสงวนแห่งชาติฯ มีนายสุชิน กลัดหลำ ที่ 1 นายอรรถวุตต์ ดียิ่ง ที่ 2 นายกิตติพล แซ่ลิ้ม ที่ 3 นายระย้า คะนองหรือ ขนอง ที่4 นายนิธิต เกษมสงคราม ที่ 5
นายศานิต อำนวยเลขา ที่6 นายสมชาย ปีดอก ที่7 นายสายชล กลัดหลำ ที่8 และพันตำรวจโทธีรยุทธ เกตมั่งมี ที่9 ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลอุธรณ์ฐานมีอาวุธปืน มีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุก จำเลยที่ 5 และที่ 8 คนละ 6 เดือน ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือ ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ให้จำคุก จำเลยที่ 2 ที่ 4 ที่ 5 ที่ 8 คนละ 6 เดือน ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว ฐานมีอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับใบอนุญาต คงจำคุกจำเลยที่ 5 และที่ 8 คนละ 3 เดือน ฐานพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
คงจำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 4 ที่ 6 ที่ 8 คนละ 3 เดือน และจำเลยที่ 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา16 (15),27ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ด้วย ฐานนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรืออาวุธเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับจำเลยที่ 3 เป็นเงิน 500 บาท และจำเลยทั้ง 9 มีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา16, 19 วรรคหนึ่ง,47 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกจำเลยทั้ง 9 คน คนละ 6 เดือน ฐานร่วมกันมีสัตว์ป่าคุ้มครองและซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกจำเลยทั้ง 9 คนคนละ 4 เดือน หลังฟังคำพิพากษา ผู้ต้องหาทั้ง 9 คนถูกควบคุมตัวไปคุมขังยังเรือนจำกลางจังหวัดเพชรบุรี
อธิบดีกรมอุทยานฯ ลงนามร่วมฯ เพิ่มพื้นที่ป่าในพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่า แก่หน่วยงานในเขตรักษาพันธุ์ฯ เขตห้ามล่าฯ ทั่วประเทศ
อธิบดีกรมอุทยานฯ ลงนามร่วมฯ เพิ่มพื้นที่ป่าในพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่า แก่หน่วยงานในเขตรักษาพันธุ์ฯ เขตห้ามล่าฯ ทั่วประเทศ
31 ม.ค.2560 เวลา 10.30 น. อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายธัญญา เนติธรรมกุล ได้มอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า จากนั้นได้ลงนามบันทึกคำรับรองการปฏิบัติงานการเพิ่มพื้นที่ป่าในพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่าโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน กับผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 1-16 และสาขา พร้อมทั้งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ความรับผิดชอบสำหรับการจัดประชุมฯ ในครั้งนี้ ได้มีการชี้แจงดำเนินงานของหน่วยงานด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า ในประเด็นต่างๆ อาทิ การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ. ศ. 2561 การจัดเก็บเงินรายได้การขออนุญาตใช้ประโยชน์พื้นที่ การจัดทำพื้นที่ด้วยระบบภูมิศาสตร์สนเทศ และการจัดเขต(zone) พื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามแนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่าลดลง และเพิ่มพื้นที่ป่าธรรมชาติให้เห็นผลเป็นรูปธรรมและมีผู้รับผิดชอบพื้นที่อย่างชัดเจน โดยมีเจ้าหน้าที่ด้านสัตว์ป่า ผอ.ส่วนสัตว์ป่า หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ ป่าเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุมใหญ่ อาคารกริต สามะพุทธิ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช